เชื่อว่ายังมีคนจำนวนไม่น้อยที่เกิดความสงสัยถึงโรคเบาหวานว่าเราจะรู้ตัวเองได้ยังไงว่ากำลังป่วย หรือเข้าข่ายเป็นโรคนี้ รวมถึงหากจะตรวจแล้วนั้นมีวิธีการอย่างไร ยุ่งยากไหม แน่นอนว่าเราไม่อยากให้คุณต้องสงสัยอีกต่อไปได้รวบรวมข้อมูลมาให้ศึกษา เพราะหากรู้ทันก็จะรับมือต่อโรคได้ไวและถูกหลักมากขึ้น
เมื่อไหร่ที่เราควรมีการตรวจคัดกรองถึงโรคเบาหวาน
สำหรับโรคเบาหวานนี้โดยเฉพาะโรคเบาหวานชนิดที่ 2 มีระยะเริ่มต้นก็อาจจะยังไม่ส่งผลผิดปกติต่อร่างกายเราชัดเจน และจะตรวจพบได้เมื่อร่างกายผิดปกติไปแล้ว จึงควรมีการตรวจคัดกรองด้วยตนเองเพื่อให้รู้และเข้ารับการรักษาอย่างรวดเร็ว ซึ่งการตรวจคัดกรองโรคนี้นั้นจะเป็นการลดความเสี่ยงให้เราต่อโรค และยับยั้งโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่มีโอกาสตามมาได้ ทั้งโรคตับ โรคหัวใจ โรคความดันเลือด โรคไต ฯลฯ แต่ถ้าถามต่อไปอีกว่าเมื่อไหร่ที่เราควรตรวจคัดกรองโรค?
- ผู้ที่มีภาวะโรคอ้วน คือเมื่อเทียบดัชนีมวลกายแล้วมีมากกว่า 25 kg/m2 หรือมีเส้นรอบเอวในส่วนของผู้หญิงมากกว่า 80 ซม. หรือผู้ชายมากกว่า 90 ซม.
- ผู้ที่มีอายุมากกว่า 45 ปี เพื่อหาความเสี่ยงที่มีของโรคนี้ควรตรวจระดับน้ำตาลในเลือดทุก 3 ปี
- มีภาวะความดันโลหิตสูง
- มีไขมันในเลือดชนิด HDL น้อยกว่า 35 มก./ ดล.
- คนในครอบครัวมีประวัติป่วยด้วยโรคนี้มาแบบสายตรง
- ลูกคนแรกที่คลอดออกมานั้นมีน้ำหนักมากกว่า 4 กก.
- เคยมีประวัติผิดปกติถึงการตรวจหาน้ำตาลกลูโคส
- มีโรคหัวใจและหลอดเลือด
วิธีการตรวจคัดกรองหาโรคเบาหวาน
สำหรับวิธีการตรวจคัดกรองของโรคเบาหวานนี้นั้น จะแบ่งออกเป็น 3 ลักษณะด้วยกัน คือ ตรวจเมื่ออดอาหาร ตรวจเลือดปลายนิ้ว และตรวจความทนต่อน้ำตาลกลูโคส
- การตรวจขณะอดอาหาร ที่จะต้องมีการงดอาการก่อนเจาะเลือด 8 ชม.
- การตรวจหาความทนต่อน้ำตาลกลูโคส จะเป็นการตรวจหลังจากได้ดื่มน้ำตาลกลูโคสไปแล้ว โดยจะวัดจากระดับน้ำตาลที่ดื่มไปแล้ว 2 ชม. หากยังสูงกว่า 200 มก./ดล. ถือว่าเข้าข่าย
- การตรวจด้วยรูปแบบเจาะปลายนิ้วมือ ที่หากสูงกว่า 126 มก./ดล. ให้ตรวจซ้ำ หากตรวจซ้ำแล้วยังมีระดับน้ำตาลสูงมากกว่า 126 มก./ดล. ถือว่าเข้าข่ายทันที แต่หากวัดได้ 100 – 125 มก./ดล. ถือเป็นผู้มีน้ำตาลผิดปกติ แต่ยังไม่เข้าข่ายโรค ให้ตรวจซ้ำทุก 1 – 3 ปี
อย่างไรก็ดี โรคเบาหวานนี้นั้นหากเข้าข่ายแล้วควรมีการตรวจคัดกรองโรคแทรกซ้อนไปด้วย โดยมีทั้งการตรวจโรคหัวใจ การตรวจจอตา การตรวจไมโครอัลบูมินในปัสสาวะ ซึ่งหากพบว่าเข้าข่ายโรคจริง ๆ ควรมีการดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม ลดความเสี่ยงอาการกำเริบ หรืออาจรุนแรงถึงชีวิตได้ในระยะยาว
หน้าที่เข้าชม | 456,603 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 323,956 ครั้ง |
เปิดร้าน | 7 ต.ค. 2562 |
ร้านค้าอัพเดท | 27 ส.ค. 2568 |