แนะนำสมุนไพรความดันและข้อควรระวังที่ควรรู้

มีสมุนไพรความดันหลายชนิดที่ช่วยบำรุงรักษาเราไม่ให้อาการความดันขึ้น หรือตกกำเริบขึ้นมาได้ง่าย ๆ กระนั้นแต่ละชนิดก็มีข้อควรระวังในการใช้งานที่ต้องศึกษาด้วย เพื่อให้เกิดความเข้าใจและไม่เป็นปัญหาด้านการใช้งาน แต่จะมีสมุนไพรชนิดไหน และมีข้อควรระวังอะไรบ้าง ไปติดตามพร้อมกันได้เลย

แนะนำสมุนไพรความดันและข้อควรระวังที่ควรรู้

1. กะเพรา

ด้วยความที่กะเพรามีสารระงับประสาท และช่วยคลายเครียดได้ดี แน่นอนว่าจึงช่วยลดความดันได้ โดยมีนักบำบัดใช้ใบกะเพราดื่มเป็นชา ใช้ได้ทั้งสดและแห้ง เพราะไม่มีคาเฟอีนดื่มแล้วได้ผลดี แต่ก็มีข้อควรระวัง คือ

-    กินเป็นเวลานานอาจเกิดปัญหาท้องเสีย หรือคลื่นไส้ได้

-    เลือดหยุดไหลยาก เพราะน้ำมันหอมระเหยมีฤทธิ์ชะลอการแข็งตัวของเลือด ควรกินในปริมาณที่เหมาะสม

-   หญิงมีครรภ์ไม่ควรกินกะเพราเพราะมีส่วนไปยับยั้งการเกาะตัวของตัวอ่อนในผนังมดลูกที่ได้ทดลองจากสัตว์ทดลองนั่นเอง

2. กระเทียม

เป็นอีกสมุนไพรความดันที่มีสารอัลซิลิน เพิ่มการไหลเวียนของเลือด ขยายหลอดเลือดที่ส่งผลต่อความดันได้ดี แต่ข้อควระวังที่ต้องรู้ คือ

-  มีโอกาสเกิดอาการแพ้ระคายเคืองที่ผิวหนังได้ หน้าบวม เป็นผื่น ปากบวม

-  กินบ่อย ๆ มีโอกาสที่จะแสบร้อนในช่องปาก แก๊สเกิดในกระเพาะอาหาร ท้องร่วง เสี่ยงต่อภาวะเลือดออก

-  ผู้ป่วยกกินยาลดเลือดแข็งตัว ต้องกินระวังมากเพราะจะเทียมทำให้เลือดหยุดไหลยาก

-  คุณแม่ตั้งครรภ์ หรือให้นมลูก ควรเลี่ยงทุกสิ่งอย่างที่เป็นกระเทียม หรือมีกระเทียมเป็นส่วนผสม

3. ขิง

ด้วยความที่ขิงมีรสเผ็ดร้อน ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีมากขึ้น ทำให้ความดันเลือดดี แนะนำให้ต้มเป็นเครื่องดื่ม ดื่มได้วันละ 3 ครั้ง หรือจะใช้ผงขิงต้มชงน้ำร้อนได้ แต่ก็ต้องระวังด้วย คือ

-    ขิงแม้เป็นสมุนไพรความดัน แต่ผู้ป่วยที่เป็นนิ่วในถุงน้ำดีต้องกินระวัง เพราะขิงเพิ่มการหลั่งของน้ำดี ทำให้ปวดท้องได้หากไปอุดตันในท่อน้ำดี

-    ขิงมีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด หากกินนาน ๆ ก็เสี่ยงภาวะน้ำตาลในเลือดลดลง

-    ไม่ควรกินขิงมากเกินไป เพราะทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ อย่างอึดอัด แสบร้อนท้องและกลางอก เสี่ยงภาวะเลือดออก

-   ผู้ป่วยที่กินยาลดการแข็งตัวของเลือด ต้องระวังมาก ๆ เพราะมีส่วนทำให้เลือดหยุดไหลยาก

-   หญิงตั้งครรภ์ควรปรึกษาแพทย์ หรือใครให้นมลูกอยู่ควรกินน้อย ๆ เพื่อความปลอดภัย

เมื่อรู้อย่างนี้แล้วก็หวังว่าทุก ๆ คนจะเกิดความเข้าใจ และตระหนักถึงการใช้งานสมุนไพรความดันกันมากขึ้น โดยเฉพาะใครที่เข้าข่ายมีปัญหาสุขภาพ หรือกำลังตั้งครรภ์ตามที่เราแนะนำไป เพื่อให้บำรุงรักษาเห็นผล ไม่ใช่ส่งผลเสียต่อร่างกายเพิ่มมากขึ้นไปได้