เมื่อการใช้งานสมุนไพรใดสมุนไพรหนึ่งจะให้เกิดความปลอดภัยที่สุดควรต้องมีการศึกษาผลวิจัยกันด้วย เพื่อเป็นหลักฐานความน่าเชื่อถือต่อไป อย่างใครที่กำลังจะเริ่มต้นใช้สมุนไพร “ทานาคา” เพื่อให้เข้าใจและมั่นใจในการใช้งาน ได้ผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์จึงควรได้ศึกษาผลวิจัยทางเภสัชวิทยาอย่างละเอียด และเราไม่พลาดที่จะนำข้อมูลทุกซอกมุมมาแนะนำ
การศึกษาทางเภสัชวิทยาของสมุนไพร “ทานาคา”
ก่อนอื่นให้ทุก ๆ คนได้ทำความรู้จักเกี่ยวกับสมุนไพรทานาคาเล็กน้อย ว่านี่เป็นสมุนไพรที่มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ Hesperethusa crenulata (Roxb.) Roem. มีถิ่นกำเนิดทางเขตร้อนชื้นทวีปเอเชีย โดยที่ไทยจะพบได้ทางภาคเหนือ และภาคตะวันตกที่มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน อย่าง พม่า ตามป่าดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณ และป่าเต็งรัง โดยผลการศึกษาทางเภสัชวิทยาของสมุนไพร “ทานาคา” จะดูในเรื่องของ
- การออกฤทธิ์ปกป้องผิวจากแสงแดด (อัตราไวโอเลต) ซึ่งจะมีผลการศึกษาแล้วพบว่ามีสารอย่าง Marmesin ที่พบได้ง่ายในเปลือกราก และเนื้อไม้ของสมุนไพรชนิดนี้ สามารถช่วยกรองแสงแดดได้ โดยแสงแดดอัลตราไวโอเลตนี้มีส่วนช่วยทำให้ผิวหนังอักเสบ เสื่อมสภาพ เกิดความหมองคล้ำ โดยจะไปกระตุ้นการสังเคราะห์เอนไซม์แมทริกซ์-เมทัลโลโปรตีเนส-1 ที่จะตัดเส้นใยโปรตีนคอลลาเจนไป และเส้นใยนี้เองที่ช่วยคงความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของผิวหนังเราไว้ พร้อมลดการสังเคราะห์โปร – คอลลาเจน นอกจากนี้ยังพบว่าสารสกัดที่ได้มาจากลำต้นของทานาคา มีส่วนช่วยยับยั้ง MMP-1 อละเพิ่มการสร้างโปร - คอลลาเจน พิสูจน์แล้วจากชาวพม่าที่นำมาใช้งานทาผิวหน้า
- มีกระบวนการยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานินให้เราจากสมุนไพรชนิดนี้ และพบว่าสาร Arbutin มีส่วนช่วยในการยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานินได้ดี โดยที่เป็นสาเหตุของการเกิดฝ้า กระ รอยหมองคล้ำต่าง ๆ ของผิว ช่วยยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase ที่มีส่วนในการสังเคราะห์เม็ดสีเมลานิน โดยจะไปเปลี่ยนสารตั้งต้นไทโรซินที่อยู่ใต้ชั้นผิวให้เป็นเมลานินได้นั่นเอง
- อีกเรื่องที่ได้จากการใช้งานทานาคา คือไม่ว่าจะผง หรือสารสกัดน้ำสามารถออกฤทธิ์การออกซิเดชัน พร้อมช่วยต้านการอักเสบ ลดเซลล์ใต้ผิวเสื่อมสภาพ โดยที่สาร suberosin พบว่ามีฤทธิ์ในการต้านเชื้อแบคทีเรีย ช่วยปกป้องสิวรักษาได้ดี
ผลิตภัณฑ์ทานาคาในปัจจุบันนี้ เราสามารถเลือกได้ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบผง รูปแบบครีม รูปแบบสารสกัดน้ำ ฯลฯ โดยที่เราสามารถเลือกได้เองตามความต้องการ แต่กระนั้นควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์ที่สุด และควรมีการเก็บรักษาอย่างเหมาะสมด้วย เป็นการคงสภาพผลิตภัณฑ์ ไม่ทำให้เสื่อมสภาพและต้องซื้อใหม่เสียเงินไปอีก
หน้าที่เข้าชม | 456,603 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 323,956 ครั้ง |
เปิดร้าน | 7 ต.ค. 2562 |
ร้านค้าอัพเดท | 27 ส.ค. 2568 |