ระวัง! อันตรายจากสมุนไพรหากกินไม่ถูกวิธี

เชื่อว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่คิดว่าการเลือกกินสมุนไพรปลอดภัยแบบสุด ๆ โดยที่ไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะกินอย่างไร โดยเฉพาะโรคเรื้อรังเพราะจะไม่สะสมของเสียในร่างกาย ซึ่งก็เป็นเรื่องจริงแต่ไม่ทั้งหมด เพราะหากเรากินแบบผิด ๆ ก็ส่งผลต่อร่างกายเป็นอันตรายได้ แล้วแบบไหนที่เรียกว่ากินผิดวิธี?

อันตรายจากสมุนไพรหากกินไม่ถูกวิธี

1. มีโอกาสทำให้เกิดอาการแพ้ได้

ใครจะรู้ว่าการเลือกใช้สมุนไพรนั้นก็มีโอกาสที่จะเกิดอาการแพ้ต่อร่างกายได้ ซึ่งอาการที่พบทั่วไปก็จะเป็นผื่นแพ้ คัน ไปจนถึงรุนแรงอย่าง อาเจียน คลื่นไส้มวนท้อง ลิ้นชา หูอื้อ ใจเต้นแรงใจสั่น หรือโอกาสที่จะเกิดหลอดเลือดบวม ความดันต่ำแบบเฉียบพลันได้เลยด้วย ซึ่งหากกินไปแล้วเกิดอาการแปลก ๆ ให้รีบหยุดกิน แล้วถ้าไม่ดีขึ้นรีบพบแพทย์โดยด่วน

2. มีโอกาสทำให้เกิดผลข้างเคียงได้

เรื่องต่อมาที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนก็คือผลข้างเคียงที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ เป็นทั้งการรบกวนร่างกาย หรือรบกวนโรคอื่น ๆ ที่กำลังเป็นอยู่ในกำเริบรุนแรงอย่างการเลือกใช้กระเทียมเพื่อให้ความดันเลือดลดลง แต่ผลข้างเคียงก็ทำให้เลือดออกได้ง่ายมาก ๆ ใครที่รู้ตัวว่าต้องผ่าตัด ก็จำเป็นต้องหยุดกินไปก่อน เป็นต้น

3. ไม่สามารถใช้ร่วมกับยาปฏิชีวนะเสมอไป

บางคนเข้าใจว่าการกินทั้งยาปฏิชีวนะ และยาสมุนไพรมีโอกาสที่จะช่วยรักษาอาการต่าง ๆ ไปแบบคูณสอง จึงเลือกที่จะซื้อพืชพรรณต่าง ๆ ที่มีสรรพคุณช่วยรักษามากินเอง ทั้งที่จริงไม่ควรทำเด็ดขาด เพราะบางครั้งอาจจะไปเพิ่มฤทธิ์ในการรักษาให้มากขึ้นกว่าเดิม และเป็นอันตรายต่อร่างกาย อย่างที่บอกกระเทียมกินแล้วลดความดัน แต่ก็กินยาลดความดันอยู่ ความดันจะลดลงมากกว่าปกติ และเกิดเป็นความดันต่ำได้

4. ไม่สามารถใช้รักษาได้ทุกโรค

เรามักจะเข้าใจว่าเลือกกินแบบธรรมชาติ จะช่วยรักษาอาการได้ทุกโรค และมักจะสนับสนุนการใช้งานที่เป็นโรคแบบอาการเล็กน้อย เช่น เป็นไข้ ไอ เป็นหวัด ในขณะที่โรครุนแรง อย่าง โรคมะเร็ง เบาหวาน หัวใจ ไขมันในเลือดสูง วัณโรค ฯลฯ ยังไม่มีอะไรมารองรับการทดลอง หรือมี % การหายขาดสูง จึงไม่สามารถเชื่อได้ว่าจะรักษาทุกโรค นอกจากนี้ อาการปวดหัวรุนแรง ปวดท้องรุนแรง ก็ยังไม่สามารถใช้เพื่อรักษาอาการให้หายได้ ใครที่มีอาการรุนแรงแนะนำพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรักษาต่อไปดีกว่า

ก่อนที่เราจะเลือกใช้ยาสมุนไพรในการรักษาอาการต่าง ๆ ควรมีการศึกษาข้อมูลอย่าละเอียดด้วยตนเอง และขอคำปรึกษากับเภสัชกร หรือแพทย์ประจำตัวไปเลย ว่าจะเลือกกินร่วมกันกับยาที่มีได้ไหม อย่างไร อย่าหลงเชื่อคำโฆษณาเชิญชวนง่าย ๆ เพราะจะทำให้ส่งผลต่อร่างกายเป็นอัน