ผงขิง เป็นอีกสมุนไพรที่มีหลาย ๆ คนนิยมนำมาเป็นส่วนหนึ่งในการประกอบอาหาร ซึ่งช่วยบำรุงรักษาร่างกายในโรคต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ทว่าปัจจุบันมีหลายคนเลือกที่จะนำไปใช้รูปแบบอื่น ๆ ไม่ว่าจะ ทาผิว หรือสูดดม และเพื่อให้การใช้งานแต่ละประเภทเป็นไปอย่างถูกต้อง เหมาะสม การศึกษาอย่างละเอียดเป็นสิ่งที่ไม่อาจละเลยไปได้ เพื่อผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์ และไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
กิน – ทาที่ผิว – สูดดม “ผงขิง” ใช้ยังไง?
1. รูปแบบการกิน
- ใครที่กำลังตั้งท้อง แนะนำว่าให้กินเพื่อบรรเทาอาหารแพ้ท้องได้ดี ไม่ส่งผลต่อทารกในครรภ์ และช่วยลดความผิดปกติของทารกได้ 1 – 3% และหากใครอยู่ระหว่างการให้นมลูก ให้เลี่ยงไปก่อน เพราะยังไม่มีข้อมูลที่น่าเชื่อถือยืนยันความปลอดภัยได้ โดยใช้วันละ 500 – 2,500 มิลลิกรัม แบ่งกิน 2 – 4 ครั้ง
- การกินในปริมาณมากเกินไป มีผงต่อหัวใจ ทำให้อาการที่เป็นอยู่แย่ลงได้
- ใครที่มีปัญหาเลือกออกผิดปกติเกี่ยวกับเลือดชอบไหลง่าย แนะนำว่าให้เลี่ยงด้วยเช่นกัน เพราะจะไปเพิ่มความเสี่ยงมากกว่ารักษา
- มีโอกาสที่จะทำให้ระดับอินซูลิน หรือระดับน้ำตาลในเลือดลดต่ำ ใครที่เป็นโรคเบาหวานต้องใช้ผงขิงอย่างระวัง หรือปรับใช้ตามยารักษาโรคที่แพทย์สั่ง
- ผู้ป่วยที่เป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดี ต้องระวังการใช้งานมาก ๆ เพราะจะไปเพิ่มอัตราการไหลของน้ำดีในร่างกาย
- การเลือกกินในปริมาณที่มากเกินไปมีผลต่อโรคหัวใจที่อาจทำให้อาการที่เป็นอยู่ดูแย่ลงกว่าเดิม
- การที่เราใช้ร่วมกับยาที่รักษาโรคที่ออกฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของโรค ไม่ว่าจะเป็น แอสไพริน, โคลพิโดเกรล, ไดโคลฟีแนค, ไอบูโพรเฟน, นาพรอกเซน, อีนอกซาพาริน, เฮพาริน และวาร์ฟาริน เพราะจะไปเพิ่มโอกาสได้รับการฟกช้ำ หรือมีเลือดออก
- ช่วยลดอาการปวดประจำเดือนได้ดี โดยให้กินวันละ 1,500 กรัม แบ่งกิน 3 เวลา กินตั้งแต่ก่อนหน้า 2 วันที่จะเป็น ยาวไปจนถึงวันที่ 3 ของการมีประจำเดือน
2. การทาลงร่างกายที่ผิวหนัง
แนะนำว่าให้นำผงขิงมาผสมน้ำนิด ๆ แล้วเอามาทางร่างกายในส่วนที่เป็นผิวหนัง 1 วัน = 4 กรัม แบ่งเป็นวันละ 4 ครั้ง นาน 6 อาทิตย์
3. การสูดดม
สุดท้ายเป็นประเภทการสูดดม หรือที่มีอาการอาเจียนหลังการผ่าตัด โดยที่จะมีสารผสมอื่น ๆ อย่าง เปปเปอร์มิ้นท์ สเปียร์มินท์ รวมถึงกระวานเทศ แล้วสูดหายใจเอาปล่อยลงทางปาก 3 ครั้ง
การที่ได้ศึกษาถึงวิธีการใช้งานผงขิงในแต่ละประเภท ไม่ว่าจะเป็นการกิน การทาลงที่ผิวหนัง หรือการสูดดม พร้อมช่วยให้เลือกใช้งานได้ตอบโจทย์ต่อตนเอง แต่ทุก ๆ การใช้งานต้องตวงปริมาณก่อนเสมอ ไม่อย่างนั้นอาจเกิดปัญหามากกว่าการรรักษาก็เป็นได้
Pageviews | 456,603 view(s) |
Visitors | 323,956 time(s) |
Open since | Oct 7, 2019 |
Last updated | Aug 27, 2025 |