“ ตรีผลา ” เป็นสมุนไพรที่ผสมผสานระหว่าง ลูกสมอพิเภก ลูกมะขามป้อม และลูกสมอไทย ซึ่งมีสรรพคุณในการช่วยร่างกายหลากหลาย ทว่าใครที่มีความสนใจอยากกิน จำเป็นต้องศึกษาบรรดาสรรพคุณที่ว่านี้ทั้งสิ้น เพื่อสร้างความเข้าใจในการนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ว่าแต่จะมีส่วนช่วยร่างกายด้านอะไรบ้าง ไปติดตามกันเลยดีกว่า
สรรพคุณของ “ตรีผลา” ที่ต้องศึกษาก่อนนำไปใช้
ด้วยความที่ตรีผลา เป็นสมุนไพรที่มีการรวมตัวของ 3 ชนิดที่กล่าวไปข้างต้น จึงจะเป็นสรรพคุณแบบรวม ๆ ที่ทั้ง 3 ชนิดให้เราได้ และร่างกายก็จะได้รับไปอย่างมีประสิทธิภาพ
1. มะขามป้อม
จะมีส่วนช่วยในด้านการเพิ่มวิตามินให้กับร่างกาย โดยที่จะมีวิตามินซีสูงมากกว่าส้มถึง 20 เท่าเลยทีเดียว โดยที่จะมีสารแทนนินที่ชื่อ “emblicanins A และ B” ที่มีส่วนช่วยต้านอนุมูลอิสระที่แรงกว่า มีกรดอะมิโน แร่ธาตุต่าง ๆ ที่จะช่วยรักษาโรคตับ กำจัดของเสียต่าง ๆ ในร่างกาย เป็นยาระบายอ่อน ๆ รวมถึงผู้ป่วยเบาหวานที่จะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือก ต้านแบคทีเรีย ลดไขมันในหลอดเลือด ต้านแบคทีเรีย ลดการอักเสบต่าง ๆ พร้อมเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย
2. สมอไทย
หรือ Terminalia chebula อีกส่วนผสมของสมุนไพรตรีผลา เป็นยาอายุรเวทที่มีฤทธิ์อุ่น สามารถนำไปใช้ในโรคลำไส้อักเสบ หรือช่วยขับของเสีย เปิดลำไส้ให้ถ่ายเทของเสียออกจากร่างกายได้เป็นอย่างดี
3. สมอพิเภก
หรือ Terminalia bellirica เป็นอีกยาอายุรเวทที่มีฤทธิ์อุ่น โดยที่จะช่วยปรับสมดุลธาตุในร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรงมากขึ้น ช่วยแก้เจ็บคอ แก้ไอ หรือติดเชื้อทางเดินหายใจ รวมถึงโรคตับได้อีกเช่นกัน
หลายคนมองว่าตรีผลามีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักได้ดี เพราะอย่างที่บอกไปว่าม่สรรพคุณในการช่วยระบายทอง ช่วยให้การขับถ่ายดีมากขึ้น มีน้ำ มีของเสียมากขึ้น และจะส่งผลต่อน้ำหนักที่ลดลงด้วย โดยการทดลองผู้ป่วยโรคอ้วนกับการกินสมุนไพรชนิดนี้ผสมกับมหาหิงคุ์ พบว่า มีน้ำหนักที่ลดลงได้จริง ๆ แต่กระนั้นเราก็ควรจะดูแลร่างกายตนเองด้วย อย่างการออกกำลังที่สม่ำเสมอ หรือเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารที่ลดไขมันลง กินอาหารครบ 5 หมู่ ทั้งนี้ หากใครที่ท้องเสียง่ายอยู่แล้ว แนะนำว่าไม่ควรกินบ่อย เพราะจะยิ่งทำให้อาการท้องเสียหนักกว่าเดิมได้
จะเห็นได้เลยว่าตรีผลามีความน่าสนใจอย่างมาก เพราะมีส่วนผสมของสมุนไพรถึง 3 ชนิดที่ผสมผสานกันอยู่ การนำมากินในชีวิตประจำวัน แนะนำทำได้ถึง 3 รูปแบบ คือนำไปต้มเป็นเครื่องดื่มกินเช้า – เย็น ช่วยระบายท้อง บดผงลงในแคปซูล หรืออัดเม็ดที่ควรกินครั้งละ 200 – 300 มิลลิกรัมช่วยแก้เสมหะ แก้ไอ รวมถึงเป็นยาระบายอีกเช่นกัน หวังว่าจะช่วยบำรุงรักษาร่างกายด้านต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Pageviews | 456,599 view(s) |
Visitors | 323,952 time(s) |
Open since | Oct 7, 2019 |
Last updated | Aug 27, 2025 |