“ขิง” ถือเป็นสมุนไพรพื้นบ้านที่หาได้ง่ายมาก ๆ ซึ่งปัจจุบันมีให้เราเลือกใช้งานหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น “ผงขิง – ขิงสด – ขิงแห้ง” ทว่าแต่ละประเภทการใช้งานเหล่านี้หากเก็บให้ถูกวิธีก็จะสามารถอยู่ได้นานมากขึ้น แล้วจะต้องเก็บด้วยวิธีไหน อย่างไร? เชื่อว่าต้องมีคนสงสัยอยู่ไม่น้อย และเราไม่พลาดรวบรวมข้อมูลมาให้ศึกษาอย่างเจาะลึก
วิธีเก็บรักษา “ผงขิง – ขิงสด – ขิงแห้ง” ที่ถูกต้อง
1. เก็บขิงไว้ในถุงพลาสติกสุญญากาศ
อย่างแรกเลือกก็คือการเก็บขิงสด ที่หากเรายังไม่ได้ปอกเปลือกใด ๆ ก็ให้เอาเก็บไว้ในถุงพลาสติกสุญญากาศเลย ซึ่งจะสามารถเก็บได้นาน 1 – 2 เดือน โดยวิธีการนั้นให้เอาใส่ลงถุงไว้แล้วกดปิดผนึก เอาอากาศออกจนหมดแล้วปิดให้แน่น จากนั้นนำไปเก็บไว้ในลิ้นชักตู้เย็น ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานได้ 2 เดือน และเมื่อต้องหั่นขิงก็เอากระดาษเช็ดมือมาซับเนื้อในก่อนนำไปใส่ถุงไว้เหมือนเดิม
2. เก็บในบรรจุภัณฑ์ปิดสนิท อุณหภูมิห้อง
วิธีการเก็บขิงต่อมาจะเป็นในรูปแบบของผงขิง โดยที่เราสามารถยืดอายุการใช้งานได้ 2 – 3 ปีเลยทีเดียว ด้วยการเก็บในบรรจุภัณฑ์ที่ฝาปิดสนิท และอยู่ในอุณหภูมิห้องปกติเลย เพราะจะทำให้ผงอยู่ตัว ไม่เกาะติดเกิดความชื้นขึ้น และยังคงรสชาติให้อร่อย ตักตวงปริมาณที่เหมาะสมชงดื่มกินได้อย่างปลอดภัย
3. ห่อขิงด้วยอะลูมิเนียมฟอยล์
รู้จักการเก็บรักษาผงขิงไปแล้ว มาต่อที่อีกวิธีซึ่งสามารถเก็บได้ทั้งขิงสด และขิงตากแห้ง โดยให้เอามาห่อด้วยอะลูมิเนียมฟอยล์ หากเป็นขิงสดก็แนะนำให้ตัดส่วนใดส่วนหนึ่งแล้วเอาสิ่งนี้ปิดเฉพาะส่วน โดยฉีกเป็นชิ้น ๆ แล้วพันแปะไว้ หรือถ้าเป็นแบบตากแห้งก็ห่อหุ้มทั้งแผ่นฟอยล์ไปเลย รับรองว่าช่วยยืดอายุการใช้งานยาวนานมากขึ้นได้จริง
4. ห่อของด้วยถุงกระดาษ
ปิดท้ายกันที่การเก็บรักษาขิงสด ซึ่งจะเป็นการเก็บขิงที่ยังไม่ได้ใช้งาน และรักษาความสดในระยะสั้น ด้วยการนำขิงมาห่อกับกระดาษ แล้วเช็ดมือก่อนที่จะเอาลงในถุงกระดาษ แล้วม้วนปากถุงให้แน่นสนิท จากนั้นนำไปใส่ไว้ในลิ้นชักตู้เย็นได้เลย โดยที่จะเหมาะกับคนที่ต้องการเก็บขิงสดใช้งานจนหมดภายใน 1 – 2 สัปดาห์
และทั้งหมดนี้ก็เป็นวิธีการเก็บรักษา “ผงขิง – ขิงสด – ขิงแห้ง” ที่ถูกวิธี พร้อมช่วยยืดอายุการใช้งานได้ในระยะยาวมากขึ้น ไม่ทำให้เกิดของเน่าเสีย หรือเสื่อมสภาพได้ ปลอดภัยต่อการใช้งาน ซึ่งหากใช้งานเป็นประจำมีส่วนช่วยบำรุงรักษาร่างกาย ทั้งช่วยแก้ปัญหาผมร่วง, ช่วยบำรุงหัวใจและหลอดเลือด, ช่วยลดอาการอักเสบ, ช่วยแก้อาการร้อนใน. ช่วยป้องกันแผลในกระเพาะอาหาร กรดไหลย้อน, บรรเทาอาการปวดประจำเดือน ฯลฯ
Pageviews | 456,599 view(s) |
Visitors | 323,952 time(s) |
Open since | Oct 7, 2019 |
Last updated | Aug 27, 2025 |