เมื่อพูดถึง “ขมิ้นอ้อย” ขึ้นมาแล้วนั้น ต้องยอมรับว่าส่วนต่าง ๆ ที่มีเราสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ด้วยสรรพคุณที่ล้นเหลือ และวันนี้เราก็จะมาแนะนำถึงการนำอีกส่วนที่สรรพคุณเยอะมาก อย่างเหง้าไปปรับใช้ ซึ่งจะช่วยรักษาอาการใดได้บ้าง ใครใคร่อยากรู้ก็ไปติดตามข้อมูลกันได้เลย
สรรพคุณส่วนของเหง้าขมิ้นอ้อย ของดีมีไว้ไม่เสียหาย
ก่อนอื่นขออธิบายถึงเหง้าขมิ้นอ้อยให้ได้เข้าใจกันเล็กน้อย โดยต้องบอกว่าต้นขมิ้นชนิดนี้นั้นจัดเป็นพรรณไม้ล้มลุกที่จะมีเหง้าอยู่ใต้ดิน ซึ่งเหง้าก็จะมีราก และมีดอกผุดออกมาได้ ขนาดจะมีความใหญ่กว่าใบ และมักจะโผล่ขึ้นมาให้เห็นเหนือดินเล็กน้อย จะอยู่ในลักษณะเหมือนเจดีย์ทรงกลมสูงหลายชั้น มีความกลมรี ยาว 18 – 24 เซนติเมตร และขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางที่ 7 – 11 เซนติเมตร ด้านนอกของเหง้าจะมีความขาวอมเหลือง เนื้อในจะเป็นสีเหลืองอ่อน (บางตำราบอกว่าเป็นสีเหลืองเข้ม) และจะใช้เพื่อขายพันธุ์ได้ด้วย ส่วนสรรพคุณของส่วนประกอบของขมิ้นชนิดนี้นั้น คือ
- มีส่วนในการช่วยกระจายเลือดได้ดี รักษาอาการเลือดคั่ง หรือไหลเวียนไม่สะดวก เส้นเลือดเกิดการอุดตัน ออกฤทธิ์ได้ดีในม้าม หรือตับ
- มีส่วนในการออกฤทธิ์เป็นยาบำรุงกำลัง
- ช่วยรักษาอาการหวัด ขับเสมหะ หรือการอาเจียนได้ดี โดยให้นำขมิ้นอ้อยมาต้มกับอบเชยเทศ และพริกหาง เติมน้ำผึ้งลงไปด้วย ใช้รับประทาน
- ออกฤทธิ์ช่วยกระตุ้นให้ลำไส้ และกระเพาะอาหารบีบตัว ขับลมออก แก้อาการท้องอืด จุกเสียด ท้องเฟ้อ อาหารย่อยง่ายมากขึ้น
- หากเป็นเหง้าสดเราสามารถนำมาต้มผสมกับการบูรเล็กน้อย แล้วเอาไปดองกับน้ำฝนกลางหาว จากนั้นก็รินเอาเฉพาะน้ำมาใช้เป็นยาหยอดตาได้ ช่วยแก้อาการตาแฉะ ตามัว ตาแดง หรือตาพิการ
- มีส่วนช่วยรักษาอาการริดสีดวงทวาร โดยการนำเหง้ามาผสมกับพริกไทยล่อน และเปลือกยางแดง ก่อนบดละเอียดเป็นผง จากนั้นก็เอาไปละลายในน้ำยางใส ปั้นให้เป็นลูกเท่าปลายนิ้วชี้ แล้วกินทั้งเช้า – เย็นช่วยได้ดี
- ช่วยแก้ประจำเดือนมาไม่ปกติ แก้ระดูขาวของผู้หญิงให้กลับมาเป็นปกติ รวมถึงแก้ฝีในมดลูกได้ด้วย
- ช่วยแก้อาการบวม ปวด ฟกช้ำ แก้ช้ำใน แก้อักเสบ ข้อเคล็ดอักเสบ เคล็ดขัดยอก โดยใช้ส่วนเหง้าสด
นอกจากเหง้าขมิ้นอ้อยจะใช้เพื่อดูแลรักษาร่างกายแล้ว จริง ๆ ก็ยังมีประโยชน์ในด้านอื่น ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการนำเหง้ามาใช้เป็นเครื่องเทศทำอาหาร การนำไปแต่งเป็นสีเหลืองให้อาหารบางชนิด เช่น ขนมเบื้องญวน ข้าวเหนียวหน้ากุ้ง แกงเหลือง แกงกะหรี่ ข้ามหมกไก่ ผักดอง ข้าวเหนียวเหลือง ฯลฯ บำรุงผิวพรรณให้สวยงาม หรือจะเอามาเคี้ยวเพื่อดับกลิ่นปากก็ได้เช่นกัน
Pageviews | 456,599 view(s) |
Visitors | 323,952 time(s) |
Open since | Oct 7, 2019 |
Last updated | Aug 27, 2025 |